{jcomments off}บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสําคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) จึงได้จัดทํานโยบายฉบับนี้จัดทําขึ้นเพื่อให้คณะกรรมการ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานทุกระดับของบริษัทฯและบริษัทย่อย รวมถึงคู่ค้า ผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้กับบริษัท ได้ทราบและเข้าใจในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลสวนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมายที่กําหนด
คํานิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
“บริษัทย่อย” หมายถึง บริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม
ของของบริษัท โดยมีลักษณะเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกํากับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่า
ทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตาม
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น
(1) ชื่อ ชื่อสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ เชื้อชาติ
(2) เลขประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขที่บัญชีธนาคาร
(3) ข้อมูลทางชีวมิติ เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ ข้อมูลสแกน
ม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง
(4) ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการจ้างงาน
(5) ข้อมูลบนอุปกรณ์หรือเครื่ องมือ เช่น IP address, MAC
address และ Cookie ID เป็นต้น
(6) ข้อมูลการบันทึกต่างๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่างๆ
ของบุคคล เช่น log file เป็นต้น
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ
การเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคําสั่งหรือในนามของผู้ควบคุม
ข้อมูล ส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้
ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา
“เจ้าหน้าทีคุ้มครองข้อมูล หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ให้คําแนะนําและตรวจสอบการ
ส่วนบุคคล” ดําเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
“เจ้าของข้อมูล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า พนักงาน ลูกค้า
นโยบายและแนวปฏิบัติ
1. การเก็บรวบรวม การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จําเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์ หรือเพื่อประโยชน์
ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม รวมถึงการดําเนินงานในด้านอื่นๆ ตามอํานาจหน้าที
และวัตถุประสงค์ในการดําเนินงานของบริษัทซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด โดยบริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูล
ทราบและขอความยินยอมก่อนเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ไม่
จําเป็นต้องขอความยินยอม
(ก) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ข) เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย
(ค) เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการวางแผนหรือการสถิติหรือสํามะโนต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ
(ง) เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือในการ
พิพากษาคดีของศาล
(จ) เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกําหนดหรือตามคําสั่งศาล
2. วัตถุประสงค์และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อการดําเนินงานของบริษัท การสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การสอบถามข้อมูล ร้องเรียน แจ้ง
ข้อเสนอแนะ รวมถึงเรื่องอื่นๆที่จําเป็นที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทําให้สามารถระบุตัวตนได้ เพื่อให้
บริษัทดําเนินการใช้สิทธิหรือประโยชน์
3. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาตราบเท่าที่จําเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุ
ในนโยบายฉบับนี้ หรือเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อบริษัทพิจารณาเห็นว่าไม่มีความ
จําเป็นต้องใช้ข้อมูลแล้ว บริษัทจะดําเนินการตามขั้นที่เหมาะสมเพื่อลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย
4. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปิดเผย
บริษัทอาจทําการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บหรือประมวลผลให้กับผู้สอบบัญชีของบริษัท
ผู้ตรวจสอบภายในหรือผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท และหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกําหนด เป็นต้น
5. ความรับผิดชอบของบุคคล
บริษัทกําหนดให้พนักงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องให้ความสําคัญและ
รับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้สิทธิในการขอให้บริษัทดําเนินการ
แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทําลายข้อมูลด้วยเหตุบาง
ประการ สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม สิทธิในการทักท้วงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณี
ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นการขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น หรือคําสั่งศาล
(ข) กระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
(ค) กระทบต่อเศรษฐกิจและการพาณิชย์ของประเทศ
(ง) มีผลต่อการสืบสวน สอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณา
พิพากษาของศาล
(จ) เพื่อคุ้มครองเจ้าของข้อมูล หรือสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทจัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหายหรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลโดยมิชอบ
8. การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจัดให้มีกระบวนการแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (Data Breach Notification) แก่เจ้าของข้อมูลส่วน
บุคคล รวมถึงสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมง นับแต่ทราบถึง
เหตุแห่งการละเมิดนั้น เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
9. ช่องทางการติดต่อ
หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อกับบริษัทได้ที่
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จํากัด (มหาชน)
เลขที่ 1213/309-10ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา
เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
โทร : 0-2559-0022 ต่อ 221 , 301
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทําการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือ
กรณีที่กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2565

บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อการเคารพต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ investor.tvthunder.co.th (“เว็บไซต์”) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบริษัท บริษัทจะดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรฐานความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลของท่าน โดยเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (Privacy Notice) อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ และ ฐานในการประมวลผลข้อมูล
- วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมหรือใข้งานเว็บไซต์ investor.tvthunder.co.th เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการ การโฆษณา การวิจัยหรือการจัดทำสถิติ การปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัท การจัดทำข่าวสารประชาสัมพันธ์ การใช้คุกกี้ และการส่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
- ฐานในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้
- ฐานความยินยอม (Consent) : บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการนำเสนอสินค้า บริการ หรือโฆษณาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตรงกับความสนใจกับท่าน รายละเอียดเป็นไปตามข้อ 5 ทั้งนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) : บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการประมวลผล การวิจัย หรือการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัท การจัดทำรายงานการดำเนินงานภายในบริษัท การปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัท การจัดทำข่าวสารประชาสัมพันธ์ของบริษัท การใช้คุกกี้ที่จำเป็นต่อการเข้าชมเว็บไซต์ การวิเคราะห์ การวัดการทำงานของเว็บไซต์
- ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : บริษัทอาจต้องนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในการเรียกข้อมูลที่บริษัทครองครองอยู่ได้ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
| ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล | ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม |
| ชื่อ-นามสกุล, ภาพถ่าย, IP Address, Cookies | 1) กรณีการเข้าชมเว็บไซต์ บริษัทเก็บรวบรวมไว้ 10 ปี นับแต่เดือนที่ท่านเข้าใช้บริการบนเว็บไซต์ 2) กรณีภาพข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัทจัดเก็บ…ปี นับแต่ปีที่ลงข่าวบนเว็บไซต์ |
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกทั้งภายในประเทศหรือหรือต่างประเทศ เท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 1 เท่านั้น พนักงานและบริษัทที่บริษัทได้ว่าจ้างให้ดำเนินการในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท (Business Partners) ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี รวมถึงหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น และอาจเป็นการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทเองด้วย
4. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูลหรือข้อความขนาดเล็กที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูลการใช้งานอินเตอร์เน็ตและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทมีการใช้งานคุกกี้ในเว็บไซต์ทั้งหมดของบริษัท ดังนี้
4.1) Strictly Necessary Cookies: คุกกี้ทางเทคนิค เป็นประเภทคุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานแพลตฟอร์ม ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
4.2) Functionality Cookies: คุกกี้ประกอบการทำงานของแพลตฟอร์ม ถูกใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเลือกหรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์มต่างๆ
4.3) Performance Cookies: คุกกี้เพื่อวัดผลการทำงานของแพลตฟอร์ม คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มแบบไม่ระบุตัวตน และนำมาวิเคราะห์จำนวนและพฤติกรรมของผู้เข้าชม เพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
4.4) Third-party Cookies: คุกกี้บุคคลที่สาม คุกกี้ชนิดนี้จะถูกกำหนดใช้โดยผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม อาทิ Google Analytics, Facebook Pixel เป็นต้น
ท่านสามารถตั้งค่ามิให้บราวเซอร์ (Browser) ที่ท่านใช้งานอยู่รับคุกกี้ตามข้อ 5.2 – 5.4 ที่บริษัทจัดไว้ได้ โดยมีขั้นตอนตามแต่ละบราวเซอร์ที่ท่านใช้งาน
5. สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด
การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง
เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง บริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์
7. เว็บไซต์อื่น ๆ
ภายในเว็บไซต์นี้มีลิงก์ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นทั้งของบริษัทและของบุคคลภายนอก ซึ่งการแจ้งการประมวลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ชองเว็บไซต์นี้ไม่ครอบคลุมถึง หากท่านกดลิงก์เชื่อมต่อดังกล่าว ท่านจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย
8. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้
8.1) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1213/309-310 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ : 0-2559-0022
แฟกซ์ : 0-2559-3609
หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับในวันเดียวกันกับวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับทั้งฉบับ
| การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 | |
| รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี | |
| แบบฟอร์มการใช้สิทธิ์เพิ่มระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น | |
| การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระการประชุมและเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น | |
| หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น |
| การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 | |
| รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี | |
|
แบบฟอร์มการใช้สิทธิ์เพิ่มระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น |
|
|
การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระการประชุม และเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการบริษัทสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น |
|
| หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น |
| การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 | |
| รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี | |
| แบบฟอร์มการใช้สิทธิ์เพิ่มระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น | |
| การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระการประชุม และเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการบริษัทสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น | |
| หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น |
| การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 | |
| รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น | |
| หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น |
บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) มีนโยบายดำเนินการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ความสามารถของ
พนักงานในทุกระดับให้เหมาะสมกับตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและเตรียม
ความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯจึงมุ่งมันพัฒนาบุคลากรทุก
สายวิชาชีพในทุกระดับ โดยผสมผสานทั้งการพัฒนาด้านทักษะความรู้ ด้านความสามารถ ตลอดจนการปลูกฝัง
วัฒนธรรมและจริยธรรมขององค์กรควบคู่กัน เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และแนวทาง ในการดำเนินธุรกิจของ
บริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นโยบายการวางแผนพัฒนาอาชีพ
บริษัทฯ กำหนดนโยบายการวางแผนพัฒนาสายอาชีพของพนักงานทุกสายวิชาชีพ ในทุกระดับโดยพนักงานจะ
ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง โดยการนำ Competency หลักขององค์กรคือ
Proactive และ Creative มาประยุกต์ใช้ ทั้งในส่วนของความสามารถหลักสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กร
ความสามารถด้านการบริหารสำหรับพนักงานระดับบริหาร และความรู้ความชำนาญในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อ
นำไปเป็นแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานรายบุคคล ด้วยการพัฒนาที่หลากหลายรูปแบบ
สำหรับพนักงานทุกระดับ เพื่อสร้างศักยภาพตนเอง ให้รองรับการเติบโตของธุรกิจของบริษัทฯ
นโยบายการฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านองค์ความรู้ (Knowledge) และพัฒนาทักษะ
(Skill)
บริษัทฯ ตระหนักเสมอว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรอันมีค่าในการขับเคลื่อนองค์กร ให้ประสบความสำเร็จ และ
เติบโตได้อย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถ ของบุคลากรในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ควบคู่
กับการนำระบบการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้โดยมีแผนการพัฒนาบุคคลกร
ด้านการฝึกอบรม ดังนี้
ทำงานตอบสนองต่อกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัทฯ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
บริษัทฯจึงออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมภายในองค์กรโดย แบ่งเป็นระดับ ดังนี้
พนักงานระดับบริหาร : บริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาผู้บริหารโดยจัดหลักสูตรการบริหารระดับสูง เพื่อ
พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำควบคู่ไปกับการเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการเสริมสร้างความเชี่ยวชาญใน
การบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับเลื่อน
ตำแหน่งในอนาคตให้สอดคล้องกบความก้าวหน้าในสายวิชาชีพและส่งเสริมให้สามารถแข่งขัน และ
พร้อมเป็นผู้นำในสายธุรกิจ
พนักงานระดับปฏิบัติการ : บริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาพนักงานระดับปฏิบัติการ โดยจัดหลักสูตร
พัฒนาความรู้ความสามารถตามหน้าที่ของสายวิชาชีพที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะ
ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานตามวิชาชีพ เช่น การบริหารความเสี่ยง, มาตรฐานทางด้าน
การเงินและบัญชี, ความรู้ทางด้านกฎหมาย , ทักษะการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี, ทักษะ
การตลาด, มาตรฐานทาง IT, การจัดการงานธุรการ, ความปลอดภัยในการทำงาน เป็นต้น นอกจากนี้
บริษัทฯ ยังได้พัฒนาพนักงานทุกคนโดยจัดหลักสูตรฝึกอบรมความรู้ความสามารถหลัก เพื่อให้พนักงาน
ทุกคนของบริษัทฯ ปฏิบัติงานได้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่นการ
ปฐมนิเทศพนักงานใหม่ , การสื่อสารอยางมีประสิทธิภาพ , การปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร ฯลฯ
2. การจัดฝึกอบรมภายนอกบริษัทฯ นอกเหนือจากการจัดฝึกอบรมภายในแล้ว บริษัทฯ ยังได้
สนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานเข้ารับการฝึกอบรม จากสถาบันหรือองค์กรต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงทั้งใน
ประเทศและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถของแต่ละบุคคลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีก
ทั้งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนแนวความคิดและมุมมอง ใหม่ๆกับองค์กรอื่นอีกด้วย
3. กิจกรรมพัฒนาองค์ความรู้ (Knowledge) และการพัฒนาทักษะ (Skill)
1. กิจกรรมที่ให้ความรู้ประสบการณ์และปรับปรุงทัศนคติในงาน
- การฝึกอบรม Training
- การสอนงาน Job Instruction & Coaching
2. กิจกรรมการบริหาร
- การสับเปลี่ยนโยกย้ายหน้าที่ (Transfer)
- การหมุนเวียนงาน (Job Rotation)
- การทดลองเวียนงาน หรือให้ทำหน้าที่ผู้ช่วย (Under Study)
- การรักษาการแทน (Acting)
- การให้ทำหน้าที่ในคณะกรรมการ (Committee)
- การดูงาน (Study Tour/ Visit)
- การเพิ่มความรับผิดชอบ (Job Enrichment)
- การมอบหมายงานพิเศษ (Special Assignment)
นโยบายรักษาผู้มีศักยภาพสูงและการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง
บริษัทฯ มีนโยบายในการรักษาพนักงานผู้มีศักยภาพสูงในองค์กร โดยจัดให้มีหลักสูตร หรือมีเครืองมือในการ
บริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลกลุ่มดังกล่าว และเตรียมวางแผนความก้าวหน้าในอาชีพ เช่น Job Rotation,
Job Enlargement & Enrichment, Job Assignment, Talent Monitor รองรับการเติบโตในองค์กร สำหรับ
พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานที่ดีและมีศักยภาพสูง เพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้ใช้ความรู้ความสามารถและ
ศักยภาพที่มีอยู่ มาใช้ในการปฏิบัติงานได้อยางเต็มที่ เพื่อตอบสนองเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
สูงสุด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับแผนการสืบทอดตำแหน่งของบุคลากร โดยเฉพาะ
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในการเตรียมบุคลากรเพื่อทดแทน
เมื่อมีตำแหน่งวางลงหรือสำหรับรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต