ปี 2535
|
- จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทขึ้น เพื่อประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์และรายการบันเทิง ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเท่ากับ 1 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
|
ปี 2537
|
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เสนอขายแก่หุ้นเดิมเพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
|
ปี 2538
|
- บริษัทลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานและสตูดิโอถ่ายทำรายการเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ และเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
|
ปี 2539
|
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เสนอขายแก่หุ้นเดิมเพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
|
ปี 2540
|
- ธันเดอร์สตูดิโอ1ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดใช้งานช่วงกลางปี 2540
|
ปี 2554
|
- บริษัทลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานเพิ่มอีก 1 อาคาร พร้อมสร้างสตูดิโอขนาดเล็กเพิ่มอีก 1 สตู มีขนาดพื้นที่รวม 100 ตรม. รองรับการถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดิโอคลิป ถ่ายทำรายการ หรือถ่ายโหษณาที่มีขนาดเล็ก เป็นต้น
|
ปี 2556
|
- ธันเดอร์สตูดิโอ 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดใช้งาน
|
ปี 2557
|
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 30 ล้านบาท เป็น 33,364,700 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท สำหรับนำมาลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ครีเอทิส มีเดีย จำกัด (CMED) และบริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (EM)
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 33,364,700 บาท เป็น 150 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,166,363 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เสนอขายแก่หุ้นเดิม
- แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น “ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน)”
- เปลี่ยนมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.25 บาท ทำให้บริษัทมีจำนวนหุ้นสามัญเป็น 600,000,000 หุ้น
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายต่อประชาชน ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
|
ปี 2558
|
- วันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศรับหลักทรัพย์ของบริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และบริษัทได้ดำเนินการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันเดียวกัน
- บริษัทฯ ลงทุนก่อสร้าง Green Park Studio จำนวน 3 สตูดิโอ
|
ปี 2559
|
- วันที่ 3 มิถุนายน 2559 บริษัทได้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 1 (“TVT-W1”) โดยจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 4 หุ้น : 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ อายุใบสำคัญแสดง
สิทธิมีระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 17 พฤษภาคม 2559) ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 (วันที่ครบกำหนดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิและวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย)
- วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับนายเจษฎา โอสภาเลิศ และนางสาวศิรินาฎ กุนธร ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่มีความเกี่ยวโยงใดกับบริษัท เพื่อร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยใช้ชื่อ “บริษัท บิ๊กเบรน จำกัด” ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการรับจ้างผลิตสื่อโฆษณา รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ออกแบบโฆษณารวมทั้งเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์สื่อโฆษณาทุกช่องทาง เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มกำลังผลิตรายการให้ครบวงจร
- วันที่ 8 สิงหาคม 2559 บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการ TVT Green Park Studio (ทีวีที กรีนพาร์ค สตูดิโอ) โมเดิร์นสตูดิโอที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุด มาตรฐานระดับสากล รองรับการผลิตรายการโทรทัศน์ , ภาพยนตร์ , ละคร , โฆษณา และงานอีเว้นท์ต่าง ๆ โดยเปิดให้บริการทั้งหมดจำนวน 3 สตูดิโอ บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่
|
ปี 2560
|
- บริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาร่วมลงทุนใน บริษัท โมอินดี้ ดิจิตอล จำกัด (“MID”) โดยบริษัทเข้าถือหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 10,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนรวม 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
- บริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (“EM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้า Startup Stars บริษัท เฟิร์ส วิชัน แอดเวนเทจ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรายการเรียลลิตี้โชว์
|
ปี 2561
|
- บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาร่วมทุน เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “ทริปเปิ้ล เอส อินเตอร์ แอคทีฟ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการเกมส์ออนไลน์ และพัฒนาโปรแกรมซอฟท์แวร์สำหรับการเล่นเกมส์ออนไลน์ โดยบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าถือหุ้นสามัญจำนวน 25,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 50.00 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
- บริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (“EM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ขยายการประกอบธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางค โดยการลงทุนในบริษัท มีราญ่า จำกัด (“MERAYA”) โดยถือหุ้นจำนวน 47,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 94.998 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
- บริษัทฯ ได้รับประทานรางวัล “ประชาบดี และเข็มเชิดชูเกียรติ ประจำปี 2561” จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น จากละครเรื่องหลวงตามหาชน ตอนต่างด้าวไม่ต่างใจ จัดโดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
|
ปี 2562
|
- บริษัทได้โอนขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ในบริษัท โมอินดี้ ดิจิตอล จำกัด จำนวน
20,000 หุ้น ให้กับ AnyMind Group Limited ในราคาหุ้นละประมาณ 2,667 บาท เป็นเงินจำนวนรวมทั้งสิ้น53,326,167.80 บาท โดยรับชำระด้วยเงินสดส่วนหนึ่งและด้วยหุ้นของ AnyMind Group Limited อีกส่วนหนึ่ง
- บริษัทฯ ได้อนุมัติให้ปิดกิจการ บริษัท มีราญ่า จำกัด (“MERAYA”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94.998 ของทุนจดทะเบียนของ MERAYA เลิกกิจการ
- บริษัทฯ ได้อนุมัติให้ปิดกิจการ บริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ EM เลิกกิจการ
|
ปี 2563
|
- บริษัทฯ ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศ “ช่อสะอาด ประจำปี 2563” ในฐานะผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่สร้างสรรค์ผลงานด้านสื่อที่มีเนื้อหาในการปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรม จากละครเรื่องหลวงตามหาชน ตอน ฉลาดแกมโกง จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
- บริษัทฯ ได้รับคะแนนประเมิน CG ในระดับ “ดีมาก” (4ดาว) จากผลสำรวจของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2563
- บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มในหุ้นของบริษัท บิ๊กเบรน จำกัด จำนวน 5,570,000.00 บาท เพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจและเพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายหลังการเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 71 ของทุนจดทะเบียนของบจก.บิ๊กเบรน
|
ปี 2564
|
- บริษัทฯ ได้รับคะแนนประเมิน CG ในระดับ “ดีมาก” (4ดาว) จากผลสำรวจของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2564
|
ปี 2565
|
- ได้รับคะแนนประเมิน CG ในระดับ “ดีมาก” (4 ดาว) จากผลสำรวจของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2565
- บริษัทฯ ได้ปรับปรุงธันเดอร์สตูดิโอ 2 ให้เป็น “The Intelligent Studio” ซึ่งเป็นสตูดิโอ Green Screen แบบ 360 องศา ซึ่งรองรับการผลิตงานบนโลกเสมือนจริงทั้ง Virtual Event, Virtual Exhibition, Live Seminar, Music Video และโฆษณาในทุกรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์งานออกแบบด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยไร้ขอบเขตในยุคออนไลน์ ผ่านหน้าจอ Smart device ด้วยเทคนิค Aximmetry (tracking studio) พร้อมทีมงานมืออาชีพที่ให้คำปรึกษาด้าน Production
|
ปี 2566
|
- ได้รับคะแนนประเมิน CG ในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) จากผลสำรวจของสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2566
- Green Park Studio ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ ในการใช้บริการสตูดิโอเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ทั้ง 3 สตู
|